ในการปลูกมะนาวเพื่อการค้านั้นความต้องการผลผลิตของมะนาวสำหรับผู้บริโภคทั่วไปก็คือ จะต้องเปลือกบาง เมล็ดน้อย ผลโต กลิ่นหอมแบบคุ้นเคย ที่สำคัญบนผลมะนาวนั้นจะต้องไม่มีตำหนิ เช่นเป็นโรคแคงเกอร์ หรือมีร่องรอยการทำลายของเพลี้ย หากได้คุณสมบัติข้างต้นมาครบถ้วนแล้ว รับรองผลผลิตของเราขายได้ตลอดปีแน่นอน แล้วทำอย่างไรจึงจะทำได้แบบนั้น

ด่านแรกเลยคือการเลือกหาซื้อกิ่งพันธุ์ โดยกิ่งพันธุ์นั้นจะต้องไม่เป็นโรคและอมโรค หรือที่เรียกกันว่าเชื้อแฝง โดยเชื้อแฝงนั้นหมายความว่าแม้นกิ่งที่เราได้มาจะมองดูไม่พบว่าเป็นโรคเลย แต่ต้นแม่ส่วนอื่นอาจจะเป็น เมื่อเราปลูกไปสักระยะหากอุณหภูมิความชื้นพอเหมาะแล้วละก็เชื้อที่แฝงอยู่จะแสดงผลของมันทันที ดังนั้นก่อนตัดสินใจเลือกซื้อกิ่งพันธุ์ให้ดูให้แน่ใจหากเป็นไปได้ไปดูให้ถึงสถานที่จริงให้ได้เลยทีเดียว

ต่อมาการดูแลรักษาบำรุงให้สมบูรณ์ หากเปรียบเทียบมะนาวกับตัวเราแล้ว หากตัวเรามีสุขภาพที่แข็งแรง ทานอาหารที่ถูกสุขลักษณะ และดูแลร่างกายดีแล้ว เมื่ออากาศเปลี่ยนแปลงโอกาสที่เราจะเป็นหวัดหรือเป็นไข้ก็น้อยหรือไม่เป็นเลย เนื่องจากเรามีสุขภาพที่แข็งแรงนั่นเอง ก็สามารถนำมาเปรียบเที่ยบได้กับต้นมะนาวของเรานั่นเอง หากว่าเริ่มต้นดีถูกต้องไม่มีเชื้อโรคแฝงมาด้วยแล้วนั้น เมื่อปลูกและดูแลบำรุงรักษาให้ต้นมีสุขภาพแข็งแรง โรคภัยต่างๆที่จะมาจากภายนอกแล้วมาติดนั้นย่อมเป็นไปได้ยากเช่นกัน และผลพลอยได้อีกอย่างที่ตามมาคือเมื่อต้นสมบูรณ์มากๆ ผิวมะนาวก็บางลงเช่นกัน

ดูอย่างไรว่าต้นมะนาวเรามีสุขภาพที่ดี ให้ดูจากลำต้นโดยลำต้นจะต้องมีผิวที่ตึง สีออกเหลืองอมเขียวโดยพื้นผิวจะเขียวและมีลายแบบละเอียดสม่ำเสมอรอบๆ ผิวตึง ไม่มีแผลหรือร่องรอย ใบสีเขียวเข้มรูปร่างเต็มไม่ว้าวแหว่ง หากมีการแตกยอดอ่อนยอดอ่อนจะตั้งขี้นตรง

สำหรับมะนาวบางสายพันธุ์ที่ถูกมองว่าอ่อนแอต่อโรคนั้น หากปฏิบัติหรือดูแลตามแบบข้างต้นตั้งแต่ด่านแรกแล้วจะเป็นโรคได้ยากเช่นกัน จากการสังเกตว่าเมื่อนำมา เพาะเมล็ดปรากฏว่าเป็นโรคยากเช่นกัน เนื่องจากไม่มีเชื้อแฝงสำหรับการเพาะเมล็ด ดังนั้นสรุปได้ว่า หากได้กิ่งพันธุ์ที่ดีและถูกต้องตามหลักแล้วรับรองว่าจะประสบความสำเร็จได้ไม่ยากโดยเฉพาะเกษตรกรมือใหม่

26.8k @สงวนสิขสิทธิ์โดย สวนมะนาวท้ายไร่ จังหวัดพิจิตร