เลี้ยงไส้เดือนไว้พรวนดิน

ไส้เดือน สิ่งที่ธรรมชาติสร้างขึ้นมาให้เป็น แรงงานชั้นดีของหมู่เกษตรกร ที่ไม่ต้องจ้างเป็นค่าแรงให้เสียเงินตรา หรือไม่ต้องกลัวว่ามันจะเรียกร้องขอขึ้นเงินเดือนแพงๆจากเจ้านาย และไม่ต้องกังวลว่ามันจะทำงานเช้าชามเย็นชาม เหมือนสัตว์บางจำพวก และไม่ลื่นอย่างปลาไหลเอาตัวรอดไปวันๆ

นายธนศักดิ์ คำด่าง ประธานเครือข่ายศูนย์ภูมิพลัง นครพนม ซึ่งเป็นเครือข่ายองค์กรชุมชนที่หันมาทำเกษตรครบวงจรเพื่อการพึ่งตัวเอง เล่าให้ฟังว่า แนวคิดหนึ่งที่ศูนย์ภูมิพลัง ได้พยายามค้นคว้าและวิจัยหาแนวทางลดต้นทุนในการทำการเกษตรให้น้อยลง อีกทั้งยังคอยเฝ้าดูระบบนิเวศน์ตามธรรมชาติ เพื่อที่จะนำเอาวิถีธรรมชาติมาเป็นตัวช่วยในการหนุนเสริม และจากการสังเกตอยู่หลายเดือนจึงมีแนวคิดว่าถ้าหากเรานำเอาไส้เดือนมาเพาะ เลี้ยงคงพอจะช่วยลดต้นทุนได้ เพราะไม่ต้องลงทุนมาก เลี้ยงด้วยวิธีง่าย ๆ แต่น่าจะได้ผลตอบแทนสูง ในที่สุดจึงได้ลงมือเลี้ยงดูด้วยวิธีง่ายๆ เพียงแค่นำกะละมังขนาดพอเหมาะหรือไม่ก็หาเศษไม้มาตีเป็นสี่เหลี่ยมก็ได้

ใส่ฟางข้าวลงไปประมาณ 3 - 4 กำ แล้วแต่ขนาดของภาชนะ นำขี้วัวหรือขี้ควายที่ผสมน้ำให้เปียกเทลงไปขยำให้เข้ากับฟาง นำฟางมาทับลงไปอีกครั้ง จึงนำไส้เดือนใส่ลงไปพอประมาณ นำฟางมาทับไว้อีกชั้น จากนั้นก็ให้เทขี้วัวขี้ควายที่ผสมกันเสร็จแล้ว ราดให้ทั่วภาชนะทิ้งไว้ 20 - 30 วัน เมื่อสังเกตเห็นว่า ทั้งฟางและขี้วัวที่เราใส่ลงไปจะยุบตัวลง แล้วให้ทำแบบเดิมอีกครั้ง แต่ไม่ต้องใส่ไส้เดือน เพราะไส้เดือนออกลูกเต็มอยู่แล้ว เพียงแต่คอยระวังไม่ให้อาหารของไส้เดือนหมดเท่านั้น

จากนั้นทิ้งไว้ ประมาณ 2 - 3 เดือน ไส้เดือนจะโตเต็มที่ และจะเต็มกะละมัง จะเห็นว่าอาหารของไส้เดือนจะเป็นขี้วัวขี้ควายและฟางที่เราใส่ลงไปนั่นเอง ทุกอย่างหาได้จากชุมชนไม่ต้องลงทุนอะไรเลย เพียงแค่เอาใจใส่คอยเติมฟางและขี้วัวขี้ควายที่เป็นอาหารของมันเท่านั้น ไส้เดือน ที่เลี้ยงขึ้นมานี้เกษตรกรสามารถนำไปใส่โคนต้นไม้ เพื่อเป็นพนักงานพรวนดิน และยังเป็นตัวช่วยย่อยสะลายสารอินทรีย์ที่มีอยู่ในดิน ทำให้ดินร่วนซุยดี ต้นไม้โตเร็ว ส่วนน้ำไส้เดือนสามารถนำไปทำเป็นส่วนผสมของปุ๋ยชีวภาพและน้ำหมักจุลินทรีย์ เพราะมีสารอาหารอยู่เป็นจำนวนมาก ที่สำคัญตัวของไส้เดือนยังนำไปเลี้ยงปลา เลี้ยงกบ ฯลฯ จะเห็นว่าประโยชน์ของไส้เดือนมีมากมายมหาศาล ส่วนข๋วยขี้กะเดือน (มูลไส้เดือน) เป็นโรงปุ๋ยชั้นดีที่มีธาตุอาหารอยู่ครบครัน

ในปีหนึ่ง ๆ จากที่เราเก็บข้อมูลจะพบว่าถ้าเลี้ยงไส้เดือน 15 ถัง เมื่อนำไปเปรียบเทียบกับการเลี้ยงวัวจะเท่ากับวัว 5 ตัวเลยทีเดียว เพราะประโยชน์จากไส้เดือนที่เอาไปเลี้ยงปลาเลี้ยงกบ เลี้ยงปลาไหล ฯลฯ เมื่อนำไปขายแต่ละงวดจะได้หลายหมื่นบาท น้ำและมูลไส้เดือนเอาไปทำปุ๋ยอินทรีย์ก็ขายได้หลายหมื่นบาทเช่นกัน โดยในแต่ละปีสามารถเพาะไส้เดือนได้ประมาณ 4 ครั้ง ตอนนี้เรากำลังเผย แพร่เทคนิคการเลี้ยงไส้เดือนเพื่อการเกษตรไปยังเกษตรกรที่เป็นสมาชิกของ ศูนย์ภูมิพลังที่มีอยู่ทั่วทั้งจังหวัดนครพนม ซึ่งนอกจากจะทำให้เกษตรกรลดค่าใช้จ่ายในการทำเกษตรแล้วยังเป็นการเพิ่มราย ได้ ตลอดจนยังทำให้แผ่นดินของเรามีความบูรณ์อีกด้วย การรู้จักทำ ภูมิปัญญาที่มีอยู่ ไปผสมผสานกันกับวิถีธรรมชาติจนเกิดประโยชน์อย่างการเลี้ยงไส้เดือนที่ศูนย์ ภูมิพลัง จึงเป็นอีกตัวอย่างหนึ่งที่ทึ่งน่าเรียนรู้ เพื่อนำมาประยุกต์ใช้ เผยแพร่สู่ชุมชนอื่นๆต่อไป

41 @สงวนสิขสิทธิ์โดย สวนมะนาวท้ายไร่ จังหวัดพิจิตร